บรรยายกาศภายในห้องเรียน
สัปดาห์นี้เป็นการเรียนสอนต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วโดยนำเสนอแผนวันที่
1 และแผนวันที่ 2 ทั้งหมดมี 4 กลุ่ม แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
อยู่ในแผ่นวันที่ 1 กับวันที่ 2 ดังนี้
แผนวันที่ 1 กลุ่มกล้วยกับของเล่นของใช้ แผนวันที่ 2 กลุ่มยานพาหนะและกลุ่มผลไม้
เมื่อนำเสนอเสร็จอาจารย์ได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนภายในวันต่อไปของหน่วยนั้น ๆ เป็นการเขียนแผนเสริมประสบการณ์ วันที่ 3 - 4 หัวข้อ
เรื่องดูแลรักษาของผลไม้, เรื่องประโยชน์ของผลไม้
กิจกรรมในวันนี้
- นำเสนอวิจัยของเพื่อน 2 คน
นายอารักษ์ ศักดิกุล (แก้ไขเพิ่มเติม)
สรุปงานวิจัย
เรื่อง การพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย โดยใช้การละเล่นพื้นบ้านของไทย
โดย สมศรี เป็งใจ
จุดมุ่งหมายของการวิจัย - เป็นการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่มีพัฒนาการที่รวดเร็ว โดยเฉพาะด้านสติปัญญา การจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง4ด้าน ได้แก่ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา
เรื่อง การพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย โดยใช้การละเล่นพื้นบ้านของไทย
โดย สมศรี เป็งใจ
จุดมุ่งหมายของการวิจัย - เป็นการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัย ซึ่งเป็นวัยที่มีพัฒนาการที่รวดเร็ว โดยเฉพาะด้านสติปัญญา การจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง4ด้าน ได้แก่ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา
วัตถุประสงค์ของการทำวิจัยนี้คือ
1. เพื่อสร้างแผนการจัดประสบการณ์การละเล่นพื้นบ้านของไทยเพื่อพัฒนาคาวมพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
2. เพื่อศึกษาความพร้อมทางคณิตศาสตร์และพฤติกรรมการเล่นของเด็กปฐมวัยโดยใช้การละเล่นพื้นบ้านของไทย
ผลการวิจัย - นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการโดยเฉพาะความสามารถด้านการคิดได้อย่างเหมาะสมกับวัย ซึ่งได้ผลสรุปรูปแบบการคิดที่สะท้อนในขณะเล่นและทำกิจกรรมดังนี้ คิดคล่องว่องไว คิดชัดเจน คิดหลากหลาย คิดละเอียดอ่อน คิดเปรียบเทียบ คิดอย่างมีเหตุและผล คิดเป็น คิดแคบ-คิดกว้าง คิดรอบคอบ นักเรียนทุกคนมีความพร้อมทางคณิตศาสตร์ผ่านเกณฑ์ 70 % โดยมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 87.25
1. เพื่อสร้างแผนการจัดประสบการณ์การละเล่นพื้นบ้านของไทยเพื่อพัฒนาคาวมพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
2. เพื่อศึกษาความพร้อมทางคณิตศาสตร์และพฤติกรรมการเล่นของเด็กปฐมวัยโดยใช้การละเล่นพื้นบ้านของไทย
ผลการวิจัย - นักเรียนส่วนใหญ่มีพัฒนาการโดยเฉพาะความสามารถด้านการคิดได้อย่างเหมาะสมกับวัย ซึ่งได้ผลสรุปรูปแบบการคิดที่สะท้อนในขณะเล่นและทำกิจกรรมดังนี้ คิดคล่องว่องไว คิดชัดเจน คิดหลากหลาย คิดละเอียดอ่อน คิดเปรียบเทียบ คิดอย่างมีเหตุและผล คิดเป็น คิดแคบ-คิดกว้าง คิดรอบคอบ นักเรียนทุกคนมีความพร้อมทางคณิตศาสตร์ผ่านเกณฑ์ 70 % โดยมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 87.25
งานวิจัยนางสาวยุคลธร ศรียะลา กดดูเพิ่มเติมค่ะ
ชื่อวิจัย ผลของการจัดกิจกรรมหลักการฟังนิทานโดยเล่าเรื่องนิทานในรูปแบบการวาดแผนที่แบบเป็นกลุ่มและรายบุคคลที่มีต่อทักษะพื้นฐานคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
โดย วิรัตน์ กรองสอาด คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
ทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เด็กจะเรียนรู้ด้วยความเข้าใจและคิดหาเหตุผลไม่ใช่การเรียนด้วยการท่องจำ เด็กจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนเด็กจึงจะสามารถเรียนในขั้นที่สูงขึ้นไปได้ ดังนั้นคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงเป็นมากกว่าวิชาคิดคำนวณซึ่งทักษะต่างๆจะสอดแทรกในกิจกรรมที่ครูจัดให้เด็กตามตารางกิจกรรมประจำวัน
การเล่านิทานให้เด็กฟังของครูนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็กปฐมวัยการทำกิจกรรมหลังฟังนิทานโดยการวาดแผนที่เป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม คือเด็กได้ลงมือกระทำ ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เพราะกิจกรรมวาดแผนที่เด็กต้องใช้ทักษะการสังเกตเพื่อเปรียบเทียบและจำแนก เพื่อบอกตำแหน่งและใช้การคิดอย่างเป็นระบบต่อการเรียงลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง นับว่าสอดคล้องกับหลักการจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ว่า จัดกิจกรรมให้เกิดความสนุกสนานและเกิดความรู้ไปด้วย
เริ่มการทดสอบโดยการเล่านิทานที่แฝงไปด้วยพื้นฐานของคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย เช่น รูปทรง ตัวเลข ขนาด โดยคุณครูได้เปลี่ยนเรื่องเล่าในแต่ละวัน เมื่อครบวันที่กำหนดในการเล่านิทานคุณครูก็นำแบบทดสอบความรู้ทางคณิตศาสตร์มาให้เด็กๆได้ลองทำ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างคือเด็กอายุ 5-6 ปี โดยชุดแรกของการทดสอบคือการนำรูปภาพ 3 รูปมาเรียงต่อกันซึ่งแต่ละรูปจะมีขนาดที่ต่างกันแล้วครูก็ให้โจทย์นักเรียนโดยบอกว่า " เด็กๆช่วยกากบาททับรูปที่เล็กที่สุดให้ครูหน่อยค่ะ " ชุดต่อมาเป็นการทดสอบขนาด ความยาว สูงต่ำ โดยคุณครูบอกเด็กๆว่า " ให้เด็กๆช่วยกากบาททับรูปบ้านที่สูงที่สุดให้คุณครูหน่อยค่ะ " อีกชุดคือการทดสอบความแตกต่างของภาพที่เห็นโดยให้เด็กๆเลือกกากบาทสิ่งที่ต่างออกไปจากเพื่อน
งานวิจัยเรื่องนี้นำเอานิทานสิ่งใกล้ตัวเด็กและสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กมาใช้สอนได้อย่างถูกวิธี เช่น เรื่องลูกหมาสิบตัวก็สอดแทรกจำนวนนับทั้งสิบทำให้ง่ายต่อการจดจำและการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้เขาเข้าใจ เข้าถึงพื้นฐานของคณิตศาสตร์ได้ง่ายและครบถ้วน อีกทั้งให้ความเพลิดเพลิน สนุกสนานและเกิดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย การใช้นิทานสามารถทดสอบความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดีเพราะเด็กได้เรียนรู้ทั้งรูปทรงเรขาคณิต จำนวนนับ การใช้เหตุผล การเรียงลำดับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ขนาด ระยะทาง ซึ่งเป็นการสอนพื้นฐานคณิตศาสตร์สอดแทรกได้อย่างง่ายเลยทีเดียว
โดย วิรัตน์ กรองสอาด คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย
ทักษะทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย เด็กจะเรียนรู้ด้วยความเข้าใจและคิดหาเหตุผลไม่ใช่การเรียนด้วยการท่องจำ เด็กจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนเด็กจึงจะสามารถเรียนในขั้นที่สูงขึ้นไปได้ ดังนั้นคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยจึงเป็นมากกว่าวิชาคิดคำนวณซึ่งทักษะต่างๆจะสอดแทรกในกิจกรรมที่ครูจัดให้เด็กตามตารางกิจกรรมประจำวัน
การเล่านิทานให้เด็กฟังของครูนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ในชีวิตประจำวันของเด็กปฐมวัยการทำกิจกรรมหลังฟังนิทานโดยการวาดแผนที่เป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม คือเด็กได้ลงมือกระทำ ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า เพราะกิจกรรมวาดแผนที่เด็กต้องใช้ทักษะการสังเกตเพื่อเปรียบเทียบและจำแนก เพื่อบอกตำแหน่งและใช้การคิดอย่างเป็นระบบต่อการเรียงลำดับเหตุการณ์ของเรื่อง นับว่าสอดคล้องกับหลักการจัดประสบการณ์เพื่อส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ที่ว่า จัดกิจกรรมให้เกิดความสนุกสนานและเกิดความรู้ไปด้วย
เริ่มการทดสอบโดยการเล่านิทานที่แฝงไปด้วยพื้นฐานของคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย เช่น รูปทรง ตัวเลข ขนาด โดยคุณครูได้เปลี่ยนเรื่องเล่าในแต่ละวัน เมื่อครบวันที่กำหนดในการเล่านิทานคุณครูก็นำแบบทดสอบความรู้ทางคณิตศาสตร์มาให้เด็กๆได้ลองทำ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างคือเด็กอายุ 5-6 ปี โดยชุดแรกของการทดสอบคือการนำรูปภาพ 3 รูปมาเรียงต่อกันซึ่งแต่ละรูปจะมีขนาดที่ต่างกันแล้วครูก็ให้โจทย์นักเรียนโดยบอกว่า " เด็กๆช่วยกากบาททับรูปที่เล็กที่สุดให้ครูหน่อยค่ะ " ชุดต่อมาเป็นการทดสอบขนาด ความยาว สูงต่ำ โดยคุณครูบอกเด็กๆว่า " ให้เด็กๆช่วยกากบาททับรูปบ้านที่สูงที่สุดให้คุณครูหน่อยค่ะ " อีกชุดคือการทดสอบความแตกต่างของภาพที่เห็นโดยให้เด็กๆเลือกกากบาทสิ่งที่ต่างออกไปจากเพื่อน
งานวิจัยเรื่องนี้นำเอานิทานสิ่งใกล้ตัวเด็กและสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กมาใช้สอนได้อย่างถูกวิธี เช่น เรื่องลูกหมาสิบตัวก็สอดแทรกจำนวนนับทั้งสิบทำให้ง่ายต่อการจดจำและการเรียนรู้ของเด็ก ทำให้เขาเข้าใจ เข้าถึงพื้นฐานของคณิตศาสตร์ได้ง่ายและครบถ้วน อีกทั้งให้ความเพลิดเพลิน สนุกสนานและเกิดความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย การใช้นิทานสามารถทดสอบความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดีเพราะเด็กได้เรียนรู้ทั้งรูปทรงเรขาคณิต จำนวนนับ การใช้เหตุผล การเรียงลำดับเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน ขนาด ระยะทาง ซึ่งเป็นการสอนพื้นฐานคณิตศาสตร์สอดแทรกได้อย่างง่ายเลยทีเดียว
- การนำเสนอแผนเสริมประสบการณ์ของวันที่ 1 และวันที่ 2 ดังนี้
แผนวันที่ 1 จากหน่วยยานพาหนะ
แผนวันที่ 3 จากหน่วยของเล่นของใช้
แผนวันที่ 4 จากหน่วยกล้วย
ความรู้ที่ได้รับ
· สาวิธีการสอน 1.การะกระตุ้น=ความคิดดยการซักถาม 2. ความจำ/ความสนใจ=เช่น เพลงทวนเกี่ยวกับผลไม้ที่เด็กได้ร้องว่ามีผลไม้ใดบ้าง 3.ความรู้เดิมประสบการณ์เดิม
· การเปิดใจรับฟัง การฟังที่ดี ไม่มีสิ่งที่ถูกหรือผิดหากเรามีเหตุผลที่เพื่อพอต่อสิ่งกระทำจริง
· เมื่อมี 3 กลุ่ม ใช้คำว่า มากที่สุด
· การหยิบผลไม้ให้เด็กควรหยิบคละ ลักษณะ
· การแนะนำอุปกรณ์ไม่ควรเปิดให้เด็กจนไม่ได้ลุ้นว่าในตระกร้ามีอะไรซ่อนอยู่
ทักษะที่ได้รับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น