วันพุธ ที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 กลุ่มเรียน101 ห้อง 233 เวลา 08.30-11.30 น.
บรรยากาศภายในห้องเรียน
สัปดาหน์นี้ทุกคนมาถึงห้องตรงเวลาและนั่งเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่สัปดาห์นี้อาจารย์มีกิจกรรมที่ต้องทำและแจ้งให้นักศึกษารู้ก่อนเวลาเรียนกิจกรรมที่สำคัญคือ กิจกรรมเปิดงานวิชา จึงทำให้ล่วงเลยเวลาเรียนเล็กน้อย ไม่นานนักอาจารย์ก็มาและทำการเรียนการสอนอย่างเป็นกันเองทำให้บรรยากาศภายในห้องดูอบอุ่น และดำเนินไปตามการจัดการเรียนการสอนของอาจารย์
ความรู้ที่ได้รับ
1.กิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน
กิจกรรมต่อรูปทรงสามเหลี่ยม / สี่เหลี่ยม จากไม้ลูกชิ้น
โดยอาจารย์แจกให้ในสัปดาห์ก่อนเพื่อนำมาจัดกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียน คือ การทำรูปทรงสามเหลี่ยมและรูปทรงสี่เหลี่ยมอาจารย์แจกไม้แหลม เหมือนกับไม้ลูกชิ้นมา 12 ไม้ โดยให้นักศึกษาตัดแบ่งเป็น 3 ส่วน ขนาดเล็ก 6 ไม้ ขนาดกลาง 6 ไม้ และขนาดยาว 6 ไม้
ภาพนี้เป็นการทำรูปสามเหลี่ยมจากไม้ขนาดกลางให้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยมจากไม้ที่ขนาดยาว
จึงออกมาเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมแบบ 2 มิติ ดังภาพ
กระบวนการออกแบบการทำกิจกรรมต่อรูปทรงสามเหลี่ยม / สี่เหลี่ยม จากไม้ลูกชิ้น
การทำรูปทรงสามเหลี่ยมจากไม้ลูกชิ้น
ขั้นการคิด คือ การใช้ประสาทสัมผัสตาในการคิดวิเคราะห์ถึงรูปร่างจากโจทย์โดยอาจารย์เป็นผู้กำหนดให้เป็นรูปทรง
ขั้นการออกแบบ คือ นำรูปลักษณะของไม้ที่มีความแตกต่างกันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์ความรู้ในการคิดออกแบบของตนเองให้ได้มากที่สุดอาจจะใช้การลองผิดลองถูกเพื่อให้ได้ซึ่งคำตอบที่ตนเองพอใจ การเลือกขนาดของไม้จึงจำเป็นในขั้นแรกเพื่อต่อยอดเป็นรูปทรงที่มีมิติมากยิ่งขึ้น
ขั้นการลงมือปฏิบัติ คือ การนำเอาโจทย์ภาพที่เราคิดไว้ในจินตนาการบวกกับขนาดของไม้ที่เรากำหนดนำมาประกอบเป็นรูปร่างที่อาจารย์ได้กำหนดคือ รูปสามเหลี่ยมเพิ่มความเป็นมิติเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมโดยใช้ดินน้ำมันยึดไม้ไว้ประกอบเข้าไว้ด้วยกันจนกลายเป็น "รูปทรงสามเหลี่ยม"
ภาพนี้เป็นการทำรูปสี่เหลี่ยมจากไม้ขนาดกลางเป็นฐานให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบใดก็ได้
จึงกำหนดใช้ไม้ที่ขนาดยาวของเพื่อนเพื่อรวมเป็นรูปทรงเดียวกันจึงออกมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแบบ 2 มิติ ดังภาพ
กระบวนการออกแบบการทำกิจกรรมต่อรูปทรงสามเหลี่ยม / สี่เหลี่ยม จากไม้ลูกชิ้น
การทำรูปทรงสี่เหลี่ยมจากไม้ลูกชิ้น
ขั้นการคิด คือ การใช้ประสาทสัมผัสตาในการคิดวิเคราะห์ถึงรูปร่างจากโจทย์โดยอาจารย์เป็นผู้กำหนดให้เป็นรูปทรง
ขั้นการออกแบบ คือ นำรูปลักษณะของไม้ที่มีความแตกต่างกันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อองค์ความรู้ในการคิดออกแบบของตนเองให้ได้มากที่สุดอาจจะใช้การลองผิดลองถูกเพื่อให้ได้ซึ่งคำตอบที่ตนเองพอใจ การเลือกขนาดของไม้จึงจำเป็นในขั้นแรกเพื่อต่อยอดเป็นรูปทรงที่มีมิติมากยิ่งขึ้น
ขั้นการลงมือปฏิบัติ คือ การนำเอาโจทย์ภาพที่เราคิดไว้ในจินตนาการบวกกับขนาดของไม้ที่เรากำหนดนำมาประกอบเป็นรูปร่างที่อาจารย์ได้กำหนดคือ รูปสามเหลี่ยมเพิ่มความเป็นมิติเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมโดยใช้ดินน้ำมันยึดไม้ไว้ประกอบเข้าไว้ด้วยกันจนกลายเป็น "รูปทรงสี่เหลี่ยม"
การประกอบรูปทรงสีเหลี่ยมเพิ่มระดับความยากขึ้นขั้นตนอนการคิดและการออกแบบรวมถึงการลงมือปฏิบัติมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันแต่เนื่องด้วยเป็นรูปสี่เหลี่ยมและทำต่อให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมแล้วนำไปประกอบชิ้นส่วนกับของเพื่อนให้มีความแปลกใหม่จึงเกิดเป้นการคิดที่มีความสับซ้อนกันหลายเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบรูปทรงสามเหลี่ยมรวมถึงการทำข้อตกลงในการออกแบบให้มีความสอดคล้องความคิดทั้ง 2 ฝ่าย ใน 1 ชิ้นงานที่ช่วยกันทำ
2.การนำเสนอของเพื่อน ๆ
สรุปบทความคณิตศาสตร์ปฐมวัยเรียนอย่างไรให้สนุก + เข้าใจ โดยนางสาวพรประเสริฐ กลับผดุง
บทความนี้ได้กล่าวถึงแนวการสอนของคุณครูท่านหนึ่งที่สอนอยู่ที่โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย
คุณครูท่านนี้เป็นผู้มีประสบการณ์สอนคณิตศาสตร์มายาวนานกว่า 35 ปี
และยังได้รับรางวัล มามากมายกว่า 20 รางวัล ครูท่านนี้คือ คุณครูเสน่ห์ สังข์ภิรมย์
แนวการสอนของคุณครูท่านนี้
จะใช้วิธีการแบบเพื่อนช่วยเพื่อน โยจับกลุ่มเด็กเก่งกับเด็กเรียนอ่อนให้คละกัน
ให้เด็กๆได้ช่วยเหลือกัน เพื่อจะได้ส่งเสริมทักษะการเข้าสังคมให้เด็กด้วย
ในการสอนครูจะไม่ทำโทษเด็ก
ไม่กากบาทในสิ่งที่เด็กทำผิดแต่จะอธิบายและให้เด็กได้แก้ไขตรงนั้นเลย ครูเป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการทำให้การเรียนคณิตศาสตร์นั้นเป็นเรื่องสนุกสำหรับเด็ก
โดยครูจะต้อง
1. ครูต้องพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
2. ครูต้องศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ
กิจกรรมต่างๆที่ทำให้เด็กสนุกสนานกับการเรียน
3. ใช้สื่อที่หน้าสนใจ
การเรียนด้วยความสนุกนั้นจะทำให้เด็กมีเจตคติที่ดีและมีกำลังใจในการเรียนรู้
การที่จะทำให้เด็กปฐมวัยนั้นสนุกและเข้าใจในคณิตศาสตร์ได้นั้น
คุณครูหรือผู้ใหญ่ทั้งหลายจะต้องสร้างองค์ประกอบการเรียนรู้รอบด้านให้เป็นเรื่องสนุก
ก็จะทำให้การเรียนที่น่าเบื่อกลายเป็นเรื่องสนุกได้นั้นเอง
สรุปงานวิจัยเรื่อง
การส่งเสริมทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์ โดยนางสาวณัฐนิชา ศรีบุตรตา
กิจกรรมดนตรี ตามแนวออร์ฟ-ชูคเวิร์คผู้จัดทำ วรินธร สิริเดชะ
(2550) เสนอต่อบัณฑิตวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒผู้ควบคุม
ผู้ช่วยศาตราจารย์ จิราภรณ์ บุญส่ง , อาจารย์ ดร. สุจินดา ขจรรุ่งศิลป์
เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง
1
แผนการจัดประสบการณ์ดนตรีตามแนวออร์ฟชูคเวิร์คและแบบทดสอบวัดทักษะพื้นฐานทางด้านคณิตศาสตร์
2 คู่มือการจัดประสบการณ์ตามแนวดนตรีตามแนวออร์ฟชูคเวิร์ค
ผลการวิจัยพบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ตามแนวดนตรีตามแนวออร์ฟชูคเวิร์คมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ได้แก่ การจัดหมวดหมู่ การรู้ค่าจำนวณ การเปรียบเทียบ อนุกรม เป็นต้น
กดลิงค์ดูต้นฉบับเพิ่มเติมค่ะ
**หมายเหตุ วันศุกร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 นัดสอบนอกตาราง เวลา 08.30 น.
**หมายเหตุ วันศุกร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 นัดสอบนอกตาราง เวลา 08.30 น.
ทักษะที่ได้รับ
- ทักษะการคิดที่แปลกใหม่
- ทักษะการคิดออกแบบ
- ทักษะการคิดดัดแปลง
การนำความรู้มาประยุกต์ใช้
- สามารถนำรูปทรงที่เป็นสามเหลี่ยม / สีเหลี่ยม มาบูรณาการเข้ากับการเรียนรู้ของเด็กโดยการใหเด็กได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองด้วยวิธีที่ไม่สับซ้อน
เทคนิคการสอนของอาจารย์
- อาจารย์มีคำถามเพื่อให้นักศึกษาสามารถคิดและตอบคำถามฝึกให้นักศึกษาเรียนรู้ที่หลากหลายผ่านกิจกรรมก่อนเข้าสู่บทเรียนสอดแทรกองค์ความรู้ที่นำไปสู่การบูรณากาในการสอนให้กับเด็กจากการจัดกิจกรรมเปะกระดาษทับรูปทรง
ประเมินผล
ประเมินตนเอง มีความตั้งใจในการเรียนการสอน รับฟังการตั้งคำถามของอาจารย์รวมทั้งเมื่ออาจารย์ยกตัวอย่าง บางครั้งก็สามารถตอบได้แต่บางครั้งก็ตอบคำถามไม่ได้เป็นไปคำสั่งของสมอง
ประเมินเพื่อน เพื่อนตั้งใจเรียนและมีสมาธิในการเรียนการสอนของอาจารย์และให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมหรือตอบคำถามอยู่เสมอ
ประเมินอาจารย์ อาจารย์มีกิจกรรมที่ส่งเสริมก่อนการเข้าสู่บทเรียนดด้วยการทำกิจกรรมที่แปลกใหม่อยู่เสมอเพื่อให้นักศึกษาได้มีสมาธิและดำเนินการเรียนการสอนเป็นไปอย่างลำดับขั้นตอน